ไขทุกคำถามไฮยารูลอน หรือ ไฮยาลูรอนิค มีประโยชน์อย่างไร?
ไฮยาลูรอน หรือ กรดไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) เป็นสารที่ร่างกายสามารถผลิตขึ้นได้เองอยู่ในบริเวณชั้นหนังแท้และชั้นหนังกำพร้า แต่จะลดลงทุกๆ ปีเมื่อมีอายุเพิ่มมากขึ้น ร่างกายของเราจะผลิตสารได้น้อยลงและช้าลงเมื่อเรามีอายุที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉลี่ยแล้วผิวของเราจะเริ่มสร้าง สารชนิดนี้ได้น้อยลง ตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป ด้วยเหตุนี้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังจึงพยายามคิดค้น สังเคราะห์ขึ้นมา เพื่อใช้ทดแทนสิ่งที่ที่ร่างกายสร้างขึ้นได้น้อยลงนั่นเอง เพราะเมื่อไฮยาลูรอนในผิวน้อยลงเรื่อยๆ จะส่งผลให้ผิวเกิดความหย่อน ผิวหนังเหี่ยวย่น หย่อนคล้อย ขาดความยืดหยุ่นคล้อย หมองโทรมและไม่กระชับ ผิวแห้งกร้าน ลอกเป็นขุย และเกิดริ้วรอยก่อนวัย บวกกับผิวหน้าที่ขาดการดูแลอย่างเหมาะสมตั้งแต่เนิ่นๆ ก็จะยิ่งทำให้ปัญหาริ้วรอยแก้ไขได้ยากยิ่งขึ้น
ไฮยาลูรอนิค แอซิดว่าสามารถอุ้มน้ำได้มากถึง 1,000 เท่าของน้ำหนักตัวสาร ใช่เลย มันคือเรื่องจริง! ในความเป็นจริง ผิวของเราสามารถผลิตโมเลกุลไฮยาลูรอนิค แอซิดได้เองตามธรรมชาติ แต่ระดับ ไฮยาลูรอน ในร่างกายจะเริ่มลดลงตามอายุ นี่คือหนึ่งเหตุผลที่คุณจะสังเกตได้ว่าผิวจะแห้งลงและดูไม่เต่งตึงเมื่ออายุมากขึ้น นอกจากนี้ สำหรับการพบในผิวหนัง ไฮยาลูรอนิค แอซิดเป็นสารหล่อลื่นชนิดหนึ่งที่พบได้ตามธรรมชาติในเนื้อเยื่อและน้ำหล่อลื่นไขข้อต่าง ๆ ภายในร่างกาย อ้างอิงจากคลีฟแลนด์ คลินิก แต่สำหรับบทความนี้ เราจะมุ่งเน้นไปที่การบำรุงผิวพรรณและคุณประโยชน์ด้านการบำรุงผิวพรรณของไฮยาลูรอนิค แอซิดเท่านั้น
กรดไฮยาลูรอนมีกี่ประเภท
ประเภทของกรดไฮยาลูรอนสังเคราะห์ออกมาได้ 3 ประเภท มีคุณสมบัติและประโยชน์ต่างกัน คือ
- ไฮยาลูรอน สายยาว (High molecular hyaluron : H-HA)
จะมีขนาดประมาณ มากกว่า 1600 kDa เป็นขนาดใหญ่ที่สุด สามารถกักเก็บความชุ่มชื้น และเติมเต็มริ้วรอยตื้นที่ผิวชั้นนอกให้ดูเรียบเนียนขึ้นได้ดี - ไฮยาลูรอน สายกลาง (Medium molecular hyaluron : M-HA)
ขนาดประมาณ 1000-1600 kDa ไฮยาลูรอนประเภทนี้จะสามารถซึมลึกได้ถึงผิวชั้นหนังกำพร้า สามารถช่วยเติมความชุ่มชื้นและลดเลือนริ้วรอยในระดับที่ลึกกว่า - ไฮยาลูรอน สายสั้น (Low molecular hyaluron : L-HA)
เป็นกรดไฮยาลูรอนที่มีขนาด100-1000 kDa และมีขนาดที่สามารถเล็กที่สุดประมาณ 52 kDa หากยิ่งเล็กกว่า 52 ประสิทธิภาพจะยิ่งสามารถซึมลึกได้ถึงผิวชั้นลึก สามารถเติมเต็มริ้วรอยจากภายในและกระตุ้นการสร้างไฮยาลูรอนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เนื่องจากคุณสมบัติที่โดดเด่นของกรดไฮยาลูรอนที่ช่วยในการฟื้นฟู บำรุงผิว ลดเลือนริ้วรอย และสามารถเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้เป็นอย่างดี จึงได้มีการพัฒนาและคิดค้นเพื่อนำมาใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องสำอาง ครีมลดริ้วรอย เซรั่มไฮยาลูรอนต่างๆ เพื่อช่วยในการแก้ปัญหาริ้วรอยและปัญหาผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุปประโยชน์ของไฮยารูลอนต่อผิว?
#1 เพิ่มความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว
อย่างที่เราเคยกล่าวก่อนหน้านี้ ไฮยาลูรอนิค แอซิดนั้นช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกักเก็บความชุ่มชื้นให้แก่ผิวของคุณ ทำให้ผิวของคุณอิ่มน้ำ เพราะผิวที่ดูอ่อนเยาว์จะช่วยรักษาความฉ่ำวาวและนุ่มเด้งซึ่งมาจากความชุ่มชื้นในผิวนั่นเอง โดยอ้างอิงตามงานวิจัยที่ตีพิมพ์โดยสถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา และอีกนัยหนึ่งคือ ปัญหาริ้วรอยมีส่วนเกี่ยวพันอย่างมากกับการสูญเสียความชุ่มชื้นของผิว
#2 ต่อต้านริ้วรอย ลดริ้วรอย และสามารถรักษารอยแดงบนใบหน้าได้
ความชุ่มชื้นช่วยแก้ปัญหาในเรื่องการเกิดริ้วรอยได้ โดยกุญแจสำคัญของการรักษาผิวให้ดูสุขภาพดีและอ่อนเยาว์คือการเก็บกักน้ำในชั้นผิว ดังนั้นการใช้ผลิตภัณฑ์สูตรที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนิค แอซิดจึงทำให้ผิวเด้งอิ่มน้ำ มีความชุ่มชื้น และริ้วรอยดูจางลง อ้างอิงจาก NCBI ไฮยาลูรอนิค แอซิดที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ออกแบบมาเพื่อช่วยและสร้างความยืดหยุ่นให้กับผิว นอกจากนี้การไม่ทาครีมกันแดด ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดริ้วรอย เนื่องจากแสงแดดเป็นอีกตัวการสำคัญที่ทำร้ายผิวของเราโดยตรง จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปกป้องผิวเราจากแสงแดด
#3 เพิ่มความกระจ่างใส
ผลิตภัณฑ์สูตรที่มีไฮยาลูรอนิค แอซิดช่วยในเรื่องผิวกระจ่างใสได้ด้วย ผิวจะดูเรียบเนียนและอิ่มเด้งด้วยน้ำในชั้นผิวหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนิค แอซิด
ใน CHILLBOX CALM DOWN BICTH MASK มี ไฮยารูลอน อะไรบ้าง?
ไฮยารูลอน 8 ชนิด นำเข้าจากประเทศเกาหลีใต้ ผสานพลังในการช่วยกักเก็บน้ำในผิว เพิ่มความชุ่มชื่น ช่วยฟื้นฟูผิวให้ผิวแข็งแรง ยืดหยุ่น ไม่แห้งกร้าน ด้วยลักษณะของโครงสร้างไฮยาลูรอนที่ต่างกัน ทำให้สามารถเพิ่มความชุ่มชื่นในทุกระดับชั้นผิวจากผิวด้านในไปยังผิวด้านนอกได้ดี ด้วยลักษณะของโครงสร้างไฮยาลูรอนที่ต่างกัน ทำให้สามารถเพิ่มความชุ่มชื่นในทุกชั้นผิว จากผิวด้านในไปยังผิวด้านนอก เราเลือก ไฮยารูลอน มาอย่างดีเพื่อส่งเสริมประสิทธิต่อกันสูงสุด ใช้ได้กับทุกสภาพผิว แม้ผิวแพ้ง่าย
- Sodium Hyaluronate Crosspolymer (Molecule > 3,000 Kda) ช่วยสร้างชั้นฟิล์มช่วยกักเก็บน้ำรักษาความชุ่มชื่นให้ชั้นผิว ป้องกันการเกิดริ้วรอย
- Sodium Hyaluronate 4 โมเลกุล (Molecule 300 2,000 Kda) ช่วยสร้างชั้นฟิล์มเคลือบผิว โดยช่วยดูดซับน้ำจากบรรยากาศภายนอกเข้าสู่ผิวและป้องกันการระเหยของน้ำออกจากผิว
- Hydroxypropyltrimonium Hyaluronate (Molecule 500 800 Kda) Cationic Hyaluronic Acidช่วยสร้างชั้นฟิล์มเคลือบผิว รักษาความชุ่มชื่นให้ผิวได้อย่างยาวนาน
- Sodium Acetylated Hyaluronate (Molecule 100 Kda) เป็นสวนประกอบใน NMF (Natural Moisturizing Factor) ที่ผิวโดยทำหนำที่ยึดเกาะน้ำไว้ที่ผิว ไม่ให้เสียไป
- Hydrolyzed Sodium Hyaluronate (Low Molecule 10 Kda) สามารถซึมลงสู่ชั้นผิวได้ดี ช่วยรักษาความชุ่มชื่นให้ผิว
- Potassium Hyaluronate (Low Molecule 10 Kda) ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นจากในทุกระดับชั้นทั้ง 3 ชั้น ได้แก่ ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis), ชั้นหนังแท้ (Dermis)เป็นชั้นที่มีไฮยารูลอนที่ร่างเรามีอยู่ ไปถึงชั้นไขมัน (Subcutis) และช่วยรักษาระดับความชุ่มชื่นในชั้นผิวนอกสุด Epidermis ไม่ให้ออก
- Hydrolzed Hyaluronic Acid (Low Molecule 10 Kda) เพิ่มความชุมชื่นและรักษาระดับความชุชุมชื่นภายในผิว
- Hyaluronic Acid (Low Molecule 10 Kda) ช่วยเพิ่ม่ Aquaporin 3 ซึ่งเป็นช่องทางการไหลของน้ำสู่ผิว ทำให้ผิวชุมชื่นและควบคุมความยืดหยุ่นของผิวให้ดียิ่งขึ้น
ไฮยาลูรอนมีวิธีใช้งานอย่างไรบ้าง ?
เมื่อเห็นความสำคัญของไฮยาลูรอน และเหตุผลที่ต้องใช้สกินแคร์ที่มีสารไฮยาลูรอนกันแล้ว ไปดูกันต่อว่าไฮยาลูรอนมีวิธีใช้งาน และวิธีการเลือกไฮยาลูรอนที่เฉพาะเจาะจงกับสภาพผิวอย่างไรบ้าง เพื่อให้การใช้ไฮยาลูรอนบำรุงผิวได้ผลลัพธ์ที่ดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
เลือกใช้ไฮยาลูรอนตามลักษณะของผิว
เนื่องจากปัญหาผิวของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน ให้คุณลองลิสต์ปัญหาผิวในเบื้องต้นก่อนว่ามีปัญหาผิวแบบใด เช่น ผิวแห้งกร้าน ขาดน้ำ ผิวมัน ขาดความสมดุล หรือผิวผสม เพื่อให้สามารถเลือกสกินแคร์เพิ่มความชุ่มชื้นให้ชั้นผิวที่เหมาะสมกับสภาพผิวของคุณได้อย่างถูกต้อง
เลือกใช้ไฮยาลูรอนตามส่วนผสม
สกินแคร์ในทุกวันนี้มีการใส่ส่วนผสมที่หลากหลาย เพื่อให้สามารถช่วยแก้ไขปัญหาผิวได้ครอบคลุม ลองสังเกตส่วนผสมที่มีอยู่ในสกินแคร์ที่เลือกซื้อให้ดี เนื่องจากคุณสามารถเลือกใช้งานสกินแคร์ที่ตอบโจทย์กับผิวคุณได้สูงสุดด้วยสกินแคร์เพียงตัวเดียวได้ อีกทั้งวิธีนี้ยังเป็นการลดขั้นตอนการบำรุงไม่ให้ซ้ำซ้อน หรือมากเกินไปได้
เลือกใช้ไฮยาลูรอนตามอายุ และขนาดโมเลกุล
ปริมาณและอัตราการผลิตไฮยาลูรอนในชั้นผิวของมนุษย์จะค่อยๆ ลดลงไปตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการใช้ไฮยาลูรอนบำรุงผิว คุณควรศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับขนาดโมเลกุลของไฮยาลูรอนให้ดี เพราะโมเลกุลของไฮยาลูรอนที่มีขนาดเล็ก จะสามารถซึมเข้าไปในชั้นผิวได้ดีมากกว่าไฮยาลูรอนที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ โดยหากต้องการแก้ไขปัญหาเรื่องริ้วรอยแห่งวัย ควรเลือกใช้ไฮยาลูรอนประเภท HWW HA ที่ช่วยกักเก็บน้ำในชั้นผิว หรือ LMW-HA ที่เป็นไฮยาลูรอนขนาด 52 kDa ซึ่งสามารถช่วยเติมเต็มริ้วรอย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดี และยังช่วยบำรุงให้ผิวหน้ากระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติได้อีกด้วย
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลอ้างอิง
- https://www.eucerin.co.th/skin-concerns/ageing-skin/hyajelly_aging
- https://www.loreal-paris.co.th/what-is-hyaluron
- https://www.bioderma.co.th/your-skin/dehydrated-sensitive-skin/what-is-hyaluron
- https://aquaplus.co.th/%E0%B9%84%E0%B8%AE%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%99-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3/#
- https://my.clevelandclinic.org/health/articles/22915-hyaluronic-acid
- https://www.healthline.com/health/beauty-skin-care/hyaluronic-acid
- https://us.typology.com/library/the-different-types-of-hyaluronic-acid-in-skincare
- https://connect.in-cosmetics.com/formulation/how-to-choose-the-right-hyaluronic-acid-for-cosmetic-formulas/
- https://en.wikipedia.org/wiki/Hyaluronic_acid#:~:text=Hyaluronic%20acid%20is%20a%20polymer,to%2020%2C000%2C000%20Da%20in%20vivo.